อย่างไรบ้าง!!!!
ผลกระทบในระยะสั้น
1.อัตราภาษีนำเข้าที่ลดลง ซึ่งรายได้ของรัฐบาลส่วนหนึ่งมาจากภาษีนำเข้า เมื่อภาษีนำเข้าลดลง รัฐบาลก็เสียรายได้ส่วนนั้นไป
2.อุตสาหกรรมบางประเภทได้รับผลกระทบเนื่องจากมีความสามารถในการผลิตน้อยหรือไม่มีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆที่เข้ามาทำธุรกิจ3. ทำให้วัตถุดิบที่นำเข้าจากประเทศนอกอาเซียนมีอัตราภาษีที่สูงขึ้น เช่นวัตถุดิบที่ใช้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
ผลกระทบในระยะยาว
1.ทำให้สินค้าไทยที่ส่งออกไปยังประเทศอาเซียนมีราคาถูกและสามารถแข่งขันกับประเทศนอกกลุ่มอาเซียนได้เนื่องจากการลดภาษี
2.มีผลต่อการลดต้นทุนด้านการผลิตและช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออก เนื่องจากการลดภาษีของไทย ทำให้มีการนำเข้าวัตถุดิบในราคาถูก
3.ทำให้แรงงานจากประเทศไทยสามารถไปทำงานในประเทศกลุ่มสมาชิกได้ และแรงงานจากประเทศอื่นๆในกลุ่มสมาชิกก็สามารถเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้เช่นกัน
4.ผู้บริโภคสามารถหาซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกลงในระยะแรก แต่เมื่อใดที่เกษตรกรรายย่อยเริ่มปิดตัวลงก็จะทำให้เกิดการผูกขาดสินค้า ทำให้มีราคาแพงขึ้น และผู้บริโภคอย่างเราๆก็จะต้องซื้อสินค้าที่มีราคาแพงต่อไป
ทางด้านสินค้าเกษตร มีสินค้าผูกพันตามข้อตกลงจำนวน 23 รายการ ได้แก่ น้ำนมดิบ/นมปรุงแต่ง นมผงขาดมันเนย ลำไยแห้ง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กระเทียม หอมหัวใหญ่ เมล็ดพันธุ์หอมใหญ่ มันฝรั่ง พริกไทย ข้าว เมล็ดถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว เนื้อมะพร้าวแห้ง ชา เมล็ดกาแฟ กาแฟสำเร็จรูป ไหมดิบ น้ำตาล และใบยาสูบ (ข้อมูลจาก : หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา)
ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการจัดตั้งAFTAมาก-น้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยูกับการปรับตัวของทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศแล้วล่ะทีนี้!!!!!
แหล่งอ้างอิง
เนื้อหาอ่านมาจาก : http://www.dip.go.th/
รูปภาพจาก : thaimisc.pukpik.com